มาทำความรู้จักกันก่อนนะคะว่าโรคเก๊าท์ที่พูดถึงนี้คืออะไรกันแน่
โรคเก๊าท์
เป็นโรคข้ออักเสบชนิดหนึ่ง ซึ่งเกิดจากการตกตะกอนของกรดยูริคภายในข้อจากนั้นจะทำให้เกิดอาการอักเสบ
อาการของโรคเก๊าท์เป็นอย่างไร?
อาการของคนที่เป็นโรคเก๊าท์ เราสามารถแบ่งได้เป็น 3 ระยะ
อาการเริ่มแรก จะมีอาการปวดรุนแรงอย่างทันทีทันใด มักเกิดที่หัวแม่เท้าเป็นที่แรก อาจเกิดขึ้นหลังการดื่มเหล้ามากเกินไป หรือ กินอาหารที่มีแคลอรีสูงมาก ผู้ป่วยจะมีอาการไข้ หนาวสั่น อ่อนเพลีย เม็ดเลือดขาวสูง และอาการจะค่อยดีขึ้นใน 2-3 วัน และจะหายได้เองในระยะ5-7 วัน บางครั้งอาจจะเกิดขึ้นหลังผ่าตัด หรือหลังเป็นโรคติดเชื้ออย่างรุนแรง จะมีอาการปวดที่ข้อ ผิวหนังตรงข้อที่เป็นจะตึง ร้อน เป็นมัน อาการจะดีขึ้นในระยะ 3 วัน - 2สัปดาห์ หรือบางคนต้องใช้ยาขับยูริคออกจากร่างกายเพื่อให้อาการเหล่านี้ดีขึ้น
อาการพักไม่แสดงออก เป็นระยะที่ไม่มีอาการแสดง แต่ปริมาณยูริคในเลือดยังสูง อยู่ในช่วงเวลาระหว่างอาการหาย และเป็นขึ้นมาอีก แต่ละช่วงจะสั้นลง จนถึงขั้นเป็นเรื้อรัง
ระยะเป็นโรคเก๊าท์เรื้อรัง เป็นช่วงที่แสดงอาการของโรคเก๊าท์เป็นระยะๆ เกิดจากการสะสมของยูริคอยู่ในข้อกระดูก ข้อกระดูกที่ได้รับผลกระทบจากโรคเก๊าท์จะมีการเปลี่ยนแปลงจนทำให้ผิดรูปได้
สาเหตุของโรคเก๊าท์
เกิดจากการที่มีภาวะกรดยูริคในเลือดสูง สาเหตุ คือ
กินอาหารที่มีสารพิวรีนมาก เช่น ตับ ไต สมอง และกินอาหารไขมันสูง
การดื่มเหล้าและเบียร์(เบียร์ทำจากยีสต์ ซึ่งมีสารพิวรีนสูง เบียร์จึงเป็นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์น้อยแตมีพิวรีนสูงมาก)
ร่างกายสังเคราะห์กรดยูริคมากขึ้น เกี่ยวกับกรรมพันธ์ุ
การกินยาบางชนิด เช่น ยาลดความดันโลหิต ทำให้กรดยูริคในเลือดสูง
ปัจจัยอื่นๆ เช่น บาดเจ็บ ผ่าตัด ความเครียด
การปฏิบัติตัวของผู้ป่วย
ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
ควบคุมอาหารที่มีพิวรีน และควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีพิวรีนสูง
ดื่มน้ำมากๆเพื่อช่วยในการขับยูริคออกจากร่างกาย
หลีกเหลี่ยงหรือลดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า เบียร์
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
ไม่เครียด ทำจิตใจให้สดชื่น ร่างเริง แจ่มใส
ปริมาณพิวรีนในอาหารส่วนที่กินได้ 100 กรัม
หมายเหตุ : ควรงดอาหารกลุ่มที่มีพิวรีนมาก โดยเด็ดขาดในระยะที่โรคกำเริบ
ที่มา : Gorinne H. Robinson(1972),Normal and Therapeutic.
Comments